ออกบูธในงานแสดงสินค้าอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
การออกบูธในงานแสดงสินค้าทุก ๆ คนมีเป้าหมายต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการขายของหรือการติดต่อเจรจาธุรกิจ แล้วจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในการออกบูธในงานแสดงสินค้าหละ เรามีขั้นตอนการวางแผนเพื่อให้ทุกท่านไม่ทำพลาดในการออกบูธในงานแสดงสินค้า จะมีอะไรบ้างไปชมกัน
1. การวางแผนการขาย
การขายด้วยความสามารถของพนักงานขายเป็นการขายที่ดี การขายจะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความขยัน แต่การขายลักษณะนี้ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป
การที่จะประสบความสำเร็จนั้นต้องตั้งเป้าหมาย และวางแผนในการขาย ผู้ออกบูธควรวางแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้พนักงานขาย เช่น การเพิ่มความเข้าใจในตัวสินค้า ขั้นตอนในการขายสำหรับพนักงานขายที่ชัดเจน งานแสดงสินค้าเหมาะแก่การขายเพราะลูกค้าพร้อมจะซื้อของที่บูธทันทีมากกว่าที่จะตามไปซื้อในภายหลัง
2. การประชุมวางแผนล่วงหน้า
ควรวางแผนก่อนงานจะจัดอย่างน้อยหกเดือน ในการวางแผนควรจะแจกแจงเป้าหมาย และจุดประสงค์ให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง การนำเสนอต้องประกอบด้วย รายชื่อสินค้า, รายละเอียดการบริการ และการขนส่งจัดเก็บ, แนวทางในการจัดแสดงหรือออกบูธ, รูปแบบ และการดำเนินงาน
รวมไปถึงข้อมูลที่ได้จากการขาย, การจัดการ และการตลาด เวลา และสถานที่การประชุม รวมถึงรายชื่อการทำหน้าที่ในบูธ ควรจะวางแผนในหนึ่งอาทิตย์ก่อนที่จะไปออกงาน
3. การกำหนดขนาดของพื้นที่
การตั้งเป้าจำนวนของลูกค้าจะช่วยให้กำหนดขนาดของพื้นที่ที่ต้องการได้ โดยเฉลี่ยพนักงานขายสามารถนำเสนอขายให้ดีได้โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 10 นาที ต้องการพื้นที่ประมาณ 1.5 เมตรในการทำงาน (รวมถึงหน้าที่อื่น ๆ)
ถ้าการวางแผนก่อนการออกงานแสดงสินค้าพบว่าต้องการร้อยละ 10 ของผู้เข้าร่วมประชุม 5,000 คน หรือ ผู้คนที่อาจจะสนใจ, กลุ่มเป้าหมาย และลูกค้า 500 คน ในตลอดช่วงเวลางานแสดงสินค้า คุณต้องใช้พื้นที่อย่างน้อยที่สุด 6 เมตร และพนักงานขาย 5 คน อยู่ที่บูธตลอดเวลา
ควรเผื่อพื้นที่ไว้สำหรับจัดเก็บ, การรวบรวมเอกสาร, สานสัมพันธ์ลูกค้า, อุปกรณ์เครื่องเสียง หรือ ห้องประชุม อีกด้วย
4. การตั้งเป้าหมายจำนวนผู้เข้าชม
กำหนดเป้าหมายว่าจะมีผู้เข้าร่วมเท่าใดที่มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าใช้จำนวนนี้กำหนดขนาดพื้นที่, งบประมาณ และการปฎิบัติงานในการออกบูธในงานแสดงสินค้า
ในงานแสดงสินค้าจะได้พบกับคนสนใจพร้อมที่จะซื้อสินค้า และบริการของคุณอยู่แล้ว โดยการตั้งเป้าหมายจำนวนผู้เข้าชมบูธจะทำให้เพิ่มโอกาสในการขาย และเจรจาธุรกิจอีกด้วย
5. การเลือกตำแหน่ง
ในบางครั้งก็ไม่ได้ไปดูสถานที่จริง ก็สามารถดูได้จากแบบแปลนของงานเพื่อที่จะเลือกพื้นที่ที่ต้องการ อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเหมาะที่สุด
ขอแบบแปลนจากสถานที่จัดโดยตรงเพื่อที่จะได้ดูรายละเอียดต่าง ๆ ของสถานที่นั้น เช่น พื้นที่บูธ, ที่ตั้งงลิฟต์, สิ่งกีดขวาง และสิ่งที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด
6. การออกแบบการโฆษณา
บูธควรตกแต่งให้ใกล้เคียงนิตยาสารมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น หัวข้อ และ เนื้อหาควรจะมองเห็นได้จากทางเดิน และทำให้เข้าใจตัวผลิตภัณฑ์ได้ง่ายเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามายังบูธ
7. การเลือกพนักงาน
พนักงานจะต้องมีความรู้ของคุณสมบัติ และมูลค่าสินค้า สามารถนำเสนอออกมาได้อย่างดี และสามารถขายหรือเจรจาธุรกิจได้ในบรรยากาศที่วุ่นวายในงานแสดงสินค้า
การประชุมก่อนงานแสดงสินค้าเป็นโอกาสที่ดีในการบรีฟงานกับพนักงานขาย ทีมที่ออกบูธต้องประชุมกันทุกเย็นเพื่อทำให้เกิดการทำงานที่ดีขึ้น เช่น การประเมินผลการขาย, การปรับปรุงบูธกับสินค้า และจัดเตรียมสำหรับวันต่อไป
8. การติดตาม และการขายที่มีคุณภาพ
การวิเคราะห์คนที่เข้ามาเยี่ยมชมบูธในตอนจบงาน แบบสอบถาม และรายงานการขายนั้นมีประโยชน์อย่างมาก ถ้าคนที่เข้ามาชมบูธกรอกแบบสอบถามได้ถูกต้อง และครบถ้วน, พนักงานที่บูธควรเก็บคำตอบ, ความกังวล และความคาดหวังได้อย่างครบถ้วนถูกต้อง
เมื่อจบงานแสดงสินค้าแบบสอบถาม และรายงานการขายนั้นจะมีประโยชน์อย่างมากในการติดตามลูกค้า
9. การเตรียม และติดตั้งอุปกรณ์ล่วงหน้า
ก่อนจะเดินทางไปที่งานแสดงสินค้าหนึ่งอาทิตย์ควรจะต้อง กำหนด, จัดเตรียม และรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ตั้งบูธต่าง ๆ เพื่อที่จะแจ้งทางงานว่ามีอะไรบ้าง และจะได้ติดตั้งได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
10. การประเมินหลังจากงานแสดงสินค้า
เก็บรวบรวมคำวิจารณ์กับผลตอบรับที่เกี่ยวกับการวางแผน และการดำเนินงานเป็นประสบการณ์ในการออกงานแสดงสินค้า และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการออกบูธในงานแสดงสินค้าในอนาคตทำให้ประสบความสำเร็จได้
การวางแผนในการออกบูธในงานแสดงสินค้ามีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเรามีการวางแผนเตรียมพร้อมการปฏิบัติงานเราก็จะง่ายขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังทำให้เราไม่ขาดตกบกพร่องอะไรอีกด้วย ทุกท่านได้เคล็ดลับนี้ไปแล้วประสบความสำเร็จหรือไม่อย่าลืมมาแชร์กันนะ
