ลุยเหมืองสมศักดิ์ ปักหลักบ้านอีต่อง ลอยล่องน้ำตกจ้อกกระดิ่น สูดกลิ่นธรรมชาติหน้าฝน
หลังจากเมื่อคืนพักผ่อนมาเต็มอิ่มประกอบกับอากาศตอนเช้าดีมากเเถมยังไม่มีเเดดเลยทำให้นอนติ่นมาซะสายเพราะนึกว่ายังหกโมงเช้า
ดูภาพบรรบากาศ ลุยเหมืองสมศักดิ์ ปักหลักบ้านอีต่อง ลอยล่องน้ำตกจ้อกกระดิ่น สูดกลิ่นธรรมชาติหน้าฝน(วันเเรก)
บรรยากาศตอนสายๆ อย่างกะ 6 โมงเช้า
ทางโน้นมีเเสงลอดเขามาดูสวยงามยิ่งนัก
บ้านเชิงเขายามไม่มีเมฆมาบดบังช่างดูสวยงาม
ร้านนี้ของอร่อย ข้าวเหนียวหมูเส้นเด็ดขาดจริงๆ 35 บ. ให้โครตเยอะด้วย สมควรกิน!!!
ส่วนอันนี้เค้กแครอทหน้าโยเกิร์ต60บาท/ชิ้นครับ
ส่วนอันนี้เค้กช็อกโกแลต 60 / ชิ้น เช่นกัน ปล.ร้านนี้กับเค้กป้าเกล็นไม่เกี่ยวข้องกันนะครับ
.ไปจองปูมาทำอาหาร คืนนี้อาหารเย็นเราจะกินปู..
กินอิ่มก็ได้เวลาเที่ยววันนี้หลายที่มากเเต่เราไม่เน้นชะโงกทัวร์นะครับ ที่เเรกเลยใกล้ๆตัวตลาด กับช่องมิตรภาพ ไทย-เมียนร์มาร์
จากจุดนี้เลยไปหน่อยก็เมียนร์มาร์เเล้วนะครับ
เมฆหมอกเยอะมากลมเเรงด้วย
น่าจะเป็นจุดเเบ่งเขตประเทศ(รึป่าว)
ป้อมทหารไม่ปรากฎสัญชาติ....
ลงมาข้างล่างเเล้วเตรียมไปที่อื่นต่อ
ทางนี้เราจะไปเนินช้างศึกกับอุโมงค์เก่า วันไปหมอกหนามาก มองไม่เห็นทางเลยทีเดียว
เนินช้างศึก
มีน้าๆปั่นจักรยานขึ้นมาด้วยสุดยอดมากๆ
เเวะไปดูอุโมงค์เก่าซะหน่อยว่ามันมีอะไร
ทางขึ้นมันธรรมดาไปปีนกันตรงๆนี่ซะเลย
มองไปข้างล่างเเทบไม่เห็นพื้นดิน
ข้างในมีน้ำขังควรใส่บูท เเต่ตัวเเทนที่ส่งไปก็ไปได้เเค่นั้นหรือป่าว....ทำไมรีบออกมาหรือว่าดีเซปติคอนอยู่ในนั้น
ออกจากเนินช้างศึกเราก็ไปต่อกันที่เหมืองสมศักดิ์ หรือเหมืองป้าเกล็นเเล้วเเต่เรียกเลยเข้าได้เฉพาะ 4wd กับ มอไซค์ เท่านั้นนะครับ หรือไม่ก็เรียกรถเหมืองมารับได้ครับ ลองติดต่อกับทางเหมืองได้เลย
ทางเข้าเบาๆสบายๆ....
ถึงเเล้วครับทางน้ำผ่านก่อนเข้าบ้านป้าเกล็นล้างรถอะไรได้เลย
มีรถมาท่องเที่ยวกันมากมาย
ศาลานั่งชิลล์
ตังบ้านป้าเกล็นวันไปไม่เจอตัวป้าอดถ่ายรูปคู่ด้วยเลย
ห้องพักในเหมือง
หิวเเล้วๆ บรรยากาศข้างในตกเเต่งได้แปลกตามากๆ
ข้าวผัดเพิ่มพลังงานก่อนเลย 200 บ. / หม้อ หม้อนึงได้ 12 จาน อิอิ
เเกงจืดลูกชิ้น 250 / หม้อ หม้อนึงได้ 10 คนคนละ 6-7 ลูก ป้าจะให้เยอะไปไหน ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ อิอิ
เค้กป้าชิ้นละ 60 บาท ขาดตัว อร่อยไม่ต้องสืบกันเลยทีเดียว
กินอิ่มเเล้วก็ได้เวลาล้อหมุนกันต่อยังมีน้ำตกรออยู่
น้ำตกจ๊อกกระดิ่นแปลว่าอะไรไม่รู้เหมือนกัน รู้เเต่ว่า 4WD เท่านั่นอีกเเล้ว โหดๆทั้งนั้น
หัวโยกหัวคลอนมาได้ซักพักก้มาถึงจนได้ ไม่ผิดหวังจริงๆน้ำใสมากๆเเถมเย็นเจี้ยบ
เย็นเเล้วก็เดินทางกลับกัน
มาดูวิธีตากผ้าให้แห้งแบบพื้นบ้านๆ เเล้วเตรียมตัวไปกินปูกัน!!!
อาหารเย็นมาเเล้ว
ปูทะเลจากอ่าวเมาะตะมะผัดผงกะหรี่
อันนี้ปูนึ่ง
ต้มยำหม้อไฟรวมมิตร
เหมือนเดิม
กะเพราหมูสับ อิ่มไปอีก 1 มื้อ ราคาทั้งหมด รวมจิปาถะ ไม่ถึง 1000 ครับผม
เช้าวันที่สามอากาศดีเมฆไม่เยอะเท่าไหร่ ก็เตรียมตัวเก็บของเดินทางเข้ากรุงทำงานใช้หนี้กันต่อไป มาเที่ยวหน้าฝนก็ได้บรรยากาศอีกด้านหนึ่งที่งดงามกับสีเขียวจัดๆ เเต่พอลงมาพื้นล่างเเล้วร้อนเหมือนเดิม ....
Good Bye Pilok ...