ลุยเหมืองสมศักดิ์ ปักหลักบ้านอีต่อง ลอยล่องน้ำตกจ้อกกระดิ่น สูดกลิ่นธรรมชาติหน้าฝน
เที่ยวไปกินไปสัปดาห์นี้ไปไกลกันซักหน่อย พาไปเที่ยวเมืองกาญจน์...อย่าเพิ่งบ่นไปอีกแระ แต่คราวนี้ที่ๆจะไปกันอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ร่วมๆ200กิโลเมตรแบบไม่ธรรมดา นั่นคือเหมืองปิล๊อค อ.ทองผาภูมินั่นเอง และ ไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่นและเหมืองสมศักดิ์ที่มีเค้กป้าเกล็นอันเลื่องชื่อด้วย
ดูภาพบรรยากาศเหมืองสมศักดิ์ต่อ
http://thailandexhibition.com/Eat-Travel/606
ออกจากกทม.มาถึงเมืองกาญจน์ก็เริ่มหิวแวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านประจำซะก่อน ประหนึ่งเป็นการเช็คอินในตัวเมืองกาญจน์ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้ชื่อร้านเซซาโว น่าจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง รสชาติเด็ดขาดไม่ต้องปรุงก็กินได้เลยราคาก็ 25-30บาท เมนูที่สั่งมาคือ เล็กยำไข่เค็ม 30 บ.
อีกชามเป็นบะหมี่แห้งอร่อยเด็ดเหมือนกัน พิมพ์ไปก็หิวอีกแล้ว...555
กินเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อ ไปแยกแก่งเสี้ยนเลี้ยวขวาไปได้ซักพักเจอร้านบ้านกาแฟตอนแรกผ่านไปแล้วเห็นป้ายเชิญชวนซะขนาดนี้วกกลับมาลองดู บอกตรงๆว่าไม่ผิดหวัง สั่งมอคค่าเย็นกับชาเขียวเย็น แก้วละ 45 บาท เข้มข้นมากๆ
เคาเตอร์สั่งอาหาร ไม่ได้ดูเมนูว่ามีอะไรพิเศษหรือแนะนำตั้งใจไปสั่งกาแฟกินอย่าง
กินเสร็จแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ อีก100 กิโลเมตรจะถึงทองผาภูมิ
ถึงทองผาภูมิแล้วค้าบเทือกเขาตั้งตระหง่านดุดันอยู่ข้างหน้าคือเทือกเขาตะนาวศรี(ถ้าจำไม่ผิด)
อะๆ พอเลยตัวเมืองทองผาภูมิมาหน่อยก็จะเจอเขื่อนวชิราลงกรณ์อยู่ด้านขวามือ แล้วจะพลาดได้อย่างไร ผ่านป้อมยามรับบัตรแล้วก็ตรงยาวๆขึ้นสันเขื่อนได้เลย บอกตรงๆอลังการมากๆ
ชื่นชมธรรมชาติกันพอหอมปากหอมคอ แล้วลุยกันต่อ ปลายทางยังเหลืออีก 60 กว่ากิโลเมตรแบบไม่ธรรมดา
มาได้อีกซักพักเจอทางแยกเราต้องเลี้ยวซ้ายนะครับ ความไม่ธรรมดาจะเริ่มหลังจากผ่านที่พักสายตรวจบ้านเชิงเขาไปนะครับ
โยกซ้ายโยกขวาไปได้ไม่รู้กี่กิโลเมตรแล้ว ก็มาเจอจุดชมวิวกม.12 มีห้องน้ำที่ไม่มีน้ำน้ำบริการซึ่งเราก็ไม่วอรี่อะไรแถมเข้าใจเพราะมันอยู่บนหน้าผา!!ที่สร้างไว้ให้เป็นจุดชมวิว ส่วนวิวระหว่างทางที่ผ่านมาไม่ได้ถ่ายรูปเพราะถนนแคบและทางไม่ค่อยดีด้วย แนะนำอย่าจอดรถถ้าไม่จำเป็นอันตรายมาก
ป้ายแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของตำบลอีต่อง
เอาแล้วเห็นป้ายนี้ใกล้ความจริงแระจากป้ายนี้ไปอีกหน่อยก็จะเป็นสน.อีต่อง เลยไปอีกสามกิโลเมตรก็จะเป็นตัวตลาดแล้วครับ
ใกล้ตัวตลาดมากขึ้นก็จะเข้าเขต”ภูมิอากาศแบบพิเศษ”คำๆนี้ไม่ได้มาเพราะทางการตั้งขึ้นเล่นๆมันคือเขตที่มีเมฆ เมฆนะครับขอย้ำอีกทีไม่ใช่หมอก เมฆก้อนโตๆวิ่งผ่านประหนึ่งเด็กวิ่งเล่นหน้าบ้านตอนเย็นแวบไปแวบมา และพอเข้าเขตนี้เตรียมใจได้เลยว่าแสงแดดจะไม่มาวอแวกับผิวหนังของเราอีกเลย (เฉพาะหน้าฝนเท่านั่นล่ะครับส่วนหน้าร้อนก้ร้อนตับแลบเช่นเคย)
และแล้วก็มาถึงจนได้ อิอิ งดงามมากมาย
ที่พักของเราในช่วงสองวันนี้ช่วงหน้าดลว์ราคาย่อมเยามากครับ
ทางเข้าที่พัก
ตามฝาผนังตึกจะมีพืชจำพวกมอสเฟิร์นขึ้นเยอะมาก ดูสวยงามในรูปแบบของมัน
เข้ามาถึงตัวที่พักแล้ว
ภาพชั้นล่างมีห้องสันทนาการไว้ร้องเพลงผ่อนคลายๆด้วยนะครับ
หน้าตาห้องพักเราเหมาชั้นสองทั้งหมด ห้องหนึ่งนอนได้ 2คน 4คน 6คนได้ตามสะดวกแต่เวลาเข้าห้องน้ำจะสะดวกหรือป่าวอันนี้ไม่ทราบ555
เก็บของเสร็จก็ไม่พักแล้วเตรียมตัวเดินถ่ายรูปพร้อมกับซึมซับวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นกันได้เลย ปล.แมวเจ้าถิ่นหยิ่งมากมาย อิอิ
ร้านข้าวที่เราฝากท้องกันตลอดสองคืนสามวัน เดี๋ยวจะมารีวิวให้ดู
เริ่มการสำรวจซอกแซกได้เลย
วัดระดับน้ำฝน ถึงขีดเหลืองๆเตรียมตัวเผ่นได้เลย ว่าแต่เผ่นไปไหน????
บ้านตอไมั ที่พักอีกเเห่งของอีต่อง
ฝันที่เป็นจริงหน้าตามันเป็นอย่างนี้นี่เองทางเข้าเหมืองปิล๊อค
บ่อน้ำกลางหมู่บ้าน
จะไปทางไหนเลือกเอาเลยครับ
สะพานเก่า ประวติความเป็นมาไม่แน่ใจแต่ รู้ว่าเก่า....
เข้าเซเว่นซื้อของก่อนราคาปกติเเต่เอ้ะไมไม่มีแสตมป์ อิอิ
ร้านค้าไม่เปิดซะก็เยอะ
วินรถสองแถวเหลืองจากทองผาภูมิ-อีต่อง 80 บ./ คน
สภาพอากาศยามค่ำคืนลมแรกหมอกเมฆหนามาก
ลองยิงแฟลชดู อ๊ากกก อภินิหาร.....
ได้เวลากินกันแล้วไปดูว่าอีต่องมีอะไรอร่อยบ้าง
คุณหน่อยเจ้าของร้านถ่ายรูปกับคนที่เคยมากิน พร้อมสโลแกนที่เก๋สุดในสามโลก
มาเเล้วจานเเรกไก่ผัดผงกะหรี่
ผัดเผ็ดหมูป่า
แกงจืดเต้าหู้
ไข่เจียวหมูสับ
ผัดผักรวมมิตร
เครื่องดื่มเเก้หนาว แล้วก้ยังมีไข่เจียวแหนม และเบิ้ลหมูป่าอีกจาน กินกัน 9 คนข้าวสามโถ เบียร์ 4 ขวดคิดว่าราคาเท่าไหร่ครับกับอาหารบนดอย 904 บาท... อาหารไม่แพงนะครับวันหลังอย่างคิดไปเอง อิอิ(อันนี้บอกตัวเอง)
จบคืนแรกแบบอิ่มหนำสำราญ.....เเละประทับใจ
ดูภาพบรรยากาศเหมืองสมศักดิ์ต่อ
http://thailandexhibition.com/Eat-Travel/606